เมื่อวานนี้กรมอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นของนครเซี่ยงไฮ้ ประกาศว่าเมื่อเวลา 13.09 น. สถานีตรวจวัดอากาศของเมืองตรวจวัดอุณหภูมิได้สูงถึง 36.1 องศาเซลเซียส จากนั้นช่วงบ่ายแก่ๆ ได้อุณหภูมิปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 36.7 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้อุณหภูมิที่ตรวจวัดได้เมื่อวานนี้ที่นครเซี่ยงไฮ้ ทำให้เดือนพฤษภาคมของปีนี้ กลายเป็นเดือนพฤษภาคมที่มีสภาพอากาศร้อนที่สุดในรอบ 100 ปี และตัวเลขที่บันทึกได้สูงกว่าสถิติเดิมที่เคยบันทึกไว้ อยู่ที่ 35.7 องศาเซลเซียส ซึ่งเคยตรวจพบถึง 4 ครั้ง คือในปี 1876 , 1903 , 1915 และ 2018
ส่วนชาวเมืองนครเซี่ยงไฮ้ตกอยู่ภายใต้ความร้อนระอุจากแสงอาทิตย์ยามบ่าย โดยบางแอพพลิเคชั่นได้แสดงข้อความที่ระบุว่า อุณหภูมิที่ผู้คนรู้สึกได้อาจมากกว่า 40 องศาเซลเซียส ขณะที่ผู้คนในเมืองต่างบ่นในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนว่า ตอนที่ออกไปรับสินค้าตอนเที่ยงร้อนมา และกลับบ้านไปก็รู้สึกปวดหัว ส่วนอีกคนหนึ่งบอกว่า เขาเกือบจะเป็นลมแดด และอากาศร้อนมากจนสามารถระเบิดได้เลย ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ภาวะโลกร้อนกำลังทำให้สภาพอากาศรุนแรงขึ้น โดยหลายประเทศประสบปัญหาคลื่นความร้อน และอุณหภูมิที่ทำลายสถิติทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ อย่างเช่น ช่วงกลางเดือนเมษายน พื้นที่บางส่วนของอินเดียเผชิญกับอุณหภูมิพุ่งสูงกว่า 44 องศาเซลเซียส ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคลมแดดอย่างน้อย 11 คน ส่วนกรุงธากา ของบังกลาเทศ ประสบกับวันที่อากาศร้อนที่สุดในรอบเกือบ 60 ปี และจังหวัดตาก ของประเทศไทยม ตรวจพบอุณหภูมิพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 45.4 องศาเซลเซียส ขณะที่แขวงไซยะบุรี ในสปป.ลาว ตรวจพบอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 42.9 องศาเซลเซียส ซึ่งทำลายสถิติอุณหภูมิสูงสุดของประเทศ คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
รายงานล่าสุด จากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติเตือนว่า ภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นในทุกๆครั้ง จะทวีความรุนแรงมากขึ้น และทำให้เกิดอันตรายหลายอย่างพร้อมกัน
เช่นเดียวกับองค์การสหประชาชาติที่ออกมาเตือนว่า ระหว่างปี 2023 ถึง 2027 จะเป็นช่วง 5 ปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา เพราะก๊าซเรือนกระจก และปรากฏการณ์เอลนีโญเกิดขึ้นพร้อมกัน และจะผลักดันทำให้อุณหภูมิโลกพุ่งสูงขึ้น