วันที่ 9 ม.ค. 2567 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวถึงกรณีที่ นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม นิดา กล่าวหาที่ปรึกษากฎหมายยักยอกทรัพย์ว่า ตนเองมีเพื่อนที่ทำงานกับนายชัยวัฒน์ หรือ เอ็ม ที่ถูกแม่ของแตงโมกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ โดยที่ทีมกฎหมายใช้เวลารวบรวมหลักฐานเกือบ 2 ปี และเสียเงินให้กับแม่แตงโม
ดังนั้นในวันนี้ตนเองจึงมาเป็นตัวแทนของทีมกฎหมายในการแถลงความจริงให้กับสังคมได้รับรู้ ความจริงทุกอย่างว่าการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่คุณแม่กล่าวหา
คุณแม๊ อ้างทีมที่ปรึกษากฎหมายยักยอกเงิน ตั้ง “ทนายเดชา” กลับมาทำคดีแตงโม
เปิดยอดเงิน “คุณแม๊” รับค่าเยียวยาคดี"แตงโม"เกือบ 10 ล้าน
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ตนเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เพราะเคยโดนคุณแม่ ทำแบบนี้เหมือนกัน พอสมประโยชน์กันก็จะอ้างว่าสิ่งที่เราทำตามที่คุณแม่เซ็นรับมอบอำนาจนั้นไม่เป็นเรื่องจริงแล้วก็ไปถอนคดีที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเราเองก็หมดค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ไม่เคยเก็บเงินคุณแม่แม้แต่บาทเดียว ค่าใช้จ่ายที่ตนเสียไปเกือบ 5 แสนบาท ในการทำคดีของน้องแตงโมในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้นตนไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก แม้กระทั่งทนายเดชา วันหนึ่งเกิดไม่พอใจก็เททิ้งอีก ที่ผ่านมาก็เททิ้งทีมทนายความไปแล้วหลายชุด ตนจึงไม่อยากให้มีใครโดนอีก ซึ่งจะได้ยินตลอด คือ คุณแม่อ้างว่า ไม่รู้เรื่องเลเขาไปทำกันเอง แม้กระทั้งเรื่องเงินที่อ้างว่ามีการยักยอก
เมื่อถามว่าการออกมาแบบนี้เป็นการเอาคืนคุณแม่หรือไม่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า “ผมอยากให้เขามีความเป็นแม่บ้าง พิสูจน์ความจริงว่าลูกเสียชีวิตเพราะอะไร ไม่ใช่เอาเงินเป็นตัวตั้ง ทำแบบนี้จะได้เงินเท่านี้ เป็นการเอาแต่เงินไม่สนใจว่าลูกจะตายอย่างไร เป็นสิ่งที่เราคาใจมาโดยตลอดในการทำคดีแตงโม มาหลายปี เราก็ยังยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการประมาท ดังนั้นสิ่งที่มีการไปฟ้องศาลแล้ว 2 ครั้ง แล้วมีการไปถอนฟ้อง จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ ที่สำคัญที่สุดมีเรื่องเงินเป็นตัวตั้ง”
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ ได้นำหลักฐานมาแสดงซึ่งเป็นสัญญาว่าจ้างระหว่างคุณแม่กับนายชัยวัฒน์ หรือ เอ็ม ที่มีการทำสัญญาเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2565
นายอัจฉริยะ ระบุว่า นายชัยวัฒน์ ไม่ได้เป็นทนายความแต่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย มีหน้าที่จัดหาทนายความมาให้คุณแม่ในการดำเนินการเรื่องคดีของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรีโดยมีการแต่งตั้ง นายชานนท์ กับนายไพศาล ว่าความในคดีในฐานะโจทก์ร่วม และยังมีการตกลงกันทางแพ่งต่างๆในชั้นสอบสวนก็ตาม แม้กระทั่งว่าความคดีใหม่ คุณแม่ก็ว่าจ้าง และมีข้อตกลงว่า ถ้าได้รับเงินมาเท่าไรจะต้องจ่ายให้นายชัยวัฒน์ 30 %
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2565 คุณแม่ได้รับเงินจำนวน 2 ล้านบาทจากนายปอ กับโรเบิร์ต ในการเยียวยา โดยจ่ายเป็นแคชเชียรเช็ค 2 ใบ ใบละ 8 แสนบาท และ เงินสดอีก 4 แสนบาท ที่นายปอนำมามอบที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ดังนั้น คุณแม่ต้องจ่ายตามสัญญา 30% ซึ่งเป็นเงิน 6 แสนบาท โดยคุณแม่ ให้นายชัยวัฒน์ เอาเงินไปก่อน 4 แสนบาท ส่วนอีก 2 แสนบาท ค้างไว้ก่อน
ตอนที่ได้เงินส่วนแรกมา 2 ล้านบาทแล้ว ยังมีเงินรายเดือนอีกเดือนละ 3 หมื่นบาทจนถึงวันนี้ผ่านมา 12 เดือนจะเป็นเงิน 360,000 บาท ดังนั้นคุณแม่ต้องจ่ายเงินให้นายชัยวัฒน์ 30% คือ 100,8000 บาท นั่นหมายความว่า คุณแม่ค้างเงินนายชัยวัฒน์ 300,8000 บาท โดยในสัญญามีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า คุณแม่ไม่สามารถยกเลิกสัญญาได้ หากนายชัยวัตร ไม่ได้ทำผิดข้อตกลงข้อใดข้อหนึ่ง แต่ถ้าคุณแม่จะยกเลิกสัญญาจะต้องยกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษร หากบอกเลิกไม่ถูกต้องจะต้องเสียค่าปรับ 2 เท่าของเงินที่จะต้องจ่ายให้กับนายชัยวัฒน์ ดังนั้นไม่ใช่เป็นการยักยอกแต่เป็นค่าวิชาชีพในการว่าจ้าง
เมื่อถามว่า ในสัญญาคุณแม่จะต้องจ่าย 30% ให้กับชัยวัฒน์ โดยทนายอีก 2 คนจะได้รับเงินส่วนนี้หรือไม่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เงิน 30% เป็นเรื่องของการว่าจ้างระหว่างคุณแม่กับนายชัยวัฒน์ ไม่เกี่ยวกับทนาย ในส่วนค่าทนายความในการว่าจ้างมาเป็นโจทก์ร่วมในการฟ้องคดี 290 คุณแม่จ่ายโดยตรงกับทนายความ ไม่ได้ผ่านนายชัยวัฒน์ ทนาย 2 คนได้รับค่าจ้างจากคุณแม่คนละ 130,000 บาท ในคดี 290 ส่วนคดีที่เป็นโจทย์ร่วมได้คนละ 1แสนบาท ไม่เกี่ยวกับสัญญา 30% คนละส่วนกัน และ ทนายทั้ง 2 คนได้รับเงินค่าจ้างไปหมดแล้ว
นายอัจฉริยะ ยืนยันว่า การยักยอกเงิน 4 แสนบาทไม่เป็นความจริง เพราะการมอบเงินในวันนั้น นายปอ นายโรเบิร์ต และมีผู้ใหญ่อีกหลายคนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ไม่ใช่นายชัยวัฒน์ นำเงินไปเข้าบัญชีเอง และ ย้ำว่า นายชัยวัฒน์ ไม่ใช่ทนายความแต่เป็นที่ปรึกษากฎหมาย ถ้าทนายความไปเรียกแบบนี้ก็อาจผิดมรรยาท และต้องบอกว่า นายชัยวัฒน์ ไม่ได้ค่าจ้าง แต่ได้เปอร์เซ็นต์
เมื่อถามว่า เรื่องการซื้ออุปกรณ์ต่างๆรวมทั้งซื้อปลาสลิดอยู่ในสัญญาจ้างด้วยหรือไม่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เรื่องปลาสลิด มีแค่ 3 ถุงนายชัยวัฒน์ ซื้อมาจากจ.ชลบุรี แล้วเอาไปฝากคุณแม่ 1 ถุง ให้เพื่อนนายชัยวัฒน์ 1 ถุง ดังนั้นปลาดสลิดมีแค่ 3 ถุง ไม่ใช่ 10 ถุง โดยคุณแม่เป็นคนออกเงินให้เอง
ส่วนของเงินอีก 4 แสนบาท ที่นายโรเบิร์ต โอนให้นายชัยวัฒน์ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2566 เป็นเงินรางวัลที่นายชัยวัฒน์ นำนักธุรกิจในเกาะสมุย มาซื้อรถกับปอ และโรเบิร์ต มูลค่าหลายล้านบาท ส่วนการที่คุณแม่ บอกว่าเงินส่วนนี้เป็นโบนัส 2 แสนบาท คุณแม่ก็ได้ทวงเงินนายชัยวัฒน์ เช้าเย็น ทุกวัน แต่ในระหว่างนั้น อยู่ในช่วงการทำคดี 290 คือ ฟ้องคดี แซนกับพวก ไม่ใช่คดีของปอกับโรเบิร์ต ที่คดีจบไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น นายชัยวัฒน์ กลัวว่าจะมีปัญหาขัดแย้งกันแล้วไม่ได้ไปฟ้องคดี แซนกับพวก จึงจ่ายเงินให้คุณแม่ 5 หมื่นบาท ส่วนอีก 1.5 แสนบาททำเป็นสัญญากู้ยืม ถ้าเงิน 2 แสนบาท ถ้าเป็นเงินโบนัสของคุณแม่ นายปอกับโรเบิร์ต ควรออกมาชี้แจงเรื่องนี้
และเมื่อวันที่ 2 พ.ยคำพูดจาก สล็อต true wallet. 2566 คุณแม่ได้ไปให้สัมภาษณ์สื่อที่หน้าศาลว่า เงิน 2 แสนบาทเป็นเงินที่เอามาปิดปากคุณแม่ เพื่อไม่ให้คุณแม่พูดถึงคดีของปอกับโรเบิร์ต ซึ่งไม่ตรงกับเรื่องโบนัส
ส่วนที่โรเบิร์ต บอกคุณแม่ว่าให้เงิน 2 แสนบาทเป็นค่าเยียวยา นั้น นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เรื่องนี้นายโรเบิร์ต ต้องออกมาพิสูจน์ว่า ตกลงเงิน 400,000 บาทเป็นเงินค่านายหน้าซื้อรถ หรือ เงินเยียวยาของคุณแม่ ถ้าเงิน 400,000 บาท เป็นของคุณแม่ ทำไมนายโรเบิร์ต ไม่โอนเงินเข้าบัญชีคุณแม่ และ เรื่องนี้คนที่รู้ดีที่สุดคือ โรเบิร์ต กับ ปอ ว่าเงิน 400,000 บาท เป็นโบนัสของคุณแม่หรือไม่
ส่วนเรื่องที่คุณแม่บอกว่าไม่รู้เรื่องที่นายชัยวัฒน์ ร่างฟ้อง นั้น นายอัจฉริยะ ได้โชว์หลักฐานเป็นหนังสือที่คุณแม่เขียนด้วยลายมือตนเองถึงนายชัยวัฒน์ ให้ร่างฟ้องคดี 290 ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บถึงความตาย กับคนที่เหลือ ยกเว้น ปอกับโรเบิร์ต
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ได้เปิดคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นการพูดคุยระหว่างคุณแม่กับนายชัยวัฒน์ เรื่องการร่างฟ้องคดี
ผลจับสลากเอฟเอ คัพ รอบ 4 คู่ใหญ่ สเปอร์ส พบ แมนซิตี้,เชลซี ดวล แอสตัน วิลล่า
กรมการขนส่งทางบก เปิดสอบบรรจุข้าราชการ 75 อัตรา เงินเดือน 9,400 – 16,500 บาท
เช็กวันมงคล ฤกษ์ดี วันดี-วันกาลกิณี "เดือน มีนาคม"